วัดพระแก้ว
เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองกำแพงเพชร
ลักษณะผังวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
สิ่งก่อสร้างสำคัญของวัดสร้างเป็นแนวยาวในแกนทิศตะวันออก ตะวันตกขนานกับแนวกำแพงเมืองด้านทิศใต้
มีกำแพงศิลาแลงแสดงของเขตวัด ลักษณะของกำแพงบางตอนแตกต่างกัน ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดพระแก้วไม่ได้สร้างเสร็จในยุคเดียวกัน
คงสร้างต่อเติมหลายครั้ง
ตรงหน้าสุดเป็นฐานไพทีสูงใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลง มีใบเสมาหินชนวนโดยรอบ พระพุทธรูปชำรุดเหลือแต่แกน
ต่อเนื่องจากฐานพระอุโบสถไปทางด้านหลังเป็นซากสิ่งก่อสร้าง ก่อเป็นฐาน
สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ซ้อนกัน ๓ ชั้น คล้ายกับฐานเจดีย์ งดงามมากเรียกว่า
"บุษบก" เชื่อกันว่า คือบุษบกที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตในอดีต
ถัดจากฐานไพที ไปทางทิศตะวันตกเป็นเจดีย์ทรงกลม หรือทรงระฆังขนาดใหญ่ ตั้งเด่นกว่าเจดย์องค์อื่น
ๆ กำหนดว่าน่าจะเป็นเจดีย์ประธานของวัด ฐานเจดีย์มีซุ้มรายรอบ ๓๒ ชั้น
ภายในซุ้มประดับสิงห์ปูนปั้น (หากเป็นยุคสุโขทัย เป็นรูปช้างปูนปั้น) ถัดขึ้นมาเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป
๑๖ ซุ้ม นอกจากนี้ยังมีมณฑปซึ่งเหลือแต่ฐาน มีพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัย
ต่อจากนั้นจะเป็นฐานวิหารยกพื้นเตี้ย ๆ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่
ปางมารวิชัย ๒ องค์ และปางไสยาสน์ ๑ องค์
ด้านหลังสุดของวัดมีเจดีย์ทรงระฆังฐานสี่เหลี่ยม เรียกว่า เจดีย์ช้างเผือก
เพราะฐานล่างประดับด้วยรูปช้างปูนปั้นครึ่งตัวจำนวน ๓๒ เชือก และแปลกกว่าเจดีย์ทรงระฆังและช้างล้อมอื่น
ๆ คือบนฐานสี่เหลี่ยมยังมีเจดีย์ประจำมุมทั้ง ๔ มุม การก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมจึงพิจารณาได้ว่าส่วนใหญ่จะสร้างในยุคสุโขทัย
และในตำนานพระพุทธสิหิงค์ ก็เคยมาประดิษฐานที่กำแพงเพชร จึงเชื่อว่าทั้งพระพุทธสิหิงค์
และพระแก้วมรกตน่าจะเคยประดิษฐาน อยู่ที่วัดพระแก้วนี้มาก่อนทั้ง ๒ องค์
และเมื่อรัชกาลที่ ๖ ได้เสด็จมาที่กำแพงเพชรได้โปรดเรียกกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมืองว่า
"วัดพระแก้ว"