สำหรับท่านที่ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows XP หากเกิดปัญหาในการชมภาพพาโนรามา ให้คลิ๊กปุ่มด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดและติดตั้ง Java ก่อนการเลือกชมภาพพาโนรามา
เชิญแนะนำสถานที่ถ่ายทำภาพพาโนรามาที่ webmaster@rosenini.com

หน้า 124

ถอยกลับถัดไป
ภาพ superWide และ HyPer พาโนรามา วีอาร์ ทัวร์
click
click


วัดกานโถม หรือ วัดช้างค้ำ


ตั้งอยู่ ในเขตท้องที่หมู่ที่ ๑๑ ตำบล ท่าวังตาล วัดกานโถม ประกอบด้วยวิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ด้านหลังมีอาคารเชื่อมต่อออกไปมีลักษณะเป็นมณฑป หลังวิหารเป็นที่ประดิษฐาน เอกสารพงศาวดารโยนกระบุว่า พญามังรายโปรดให้สร้างวัดกานโถมขึ้นในราวปี พ.ศ. ๑๘๓๓ ประกอบด้วยฐานเจดีย์มีฐานกว้าง ๑๒ เมตร สูง ๑๘ เมตร ทำซุ้มคูหาที่ทิศใช้พระพุทธรูปซ้อนเป็นสองชั้น ชั้นล่างไว้พระพุทธรูป ๔ องค์ ชั้นบนไว้พระพุทธรูปยืนองค์หนึ่ง มีรูปอัครสาวกโมคัลลาน์ สารีบุตร และพระอินทร์ รูปนางธรณี ไว้สำหรับพระพุทธรูปด้วย นอกจากนี้ในบริเวณวัดกานโถมยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ได้อัญเชิญเมล็ดจากเมืองลังกาในครั้งโบราณ และหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ

นอกจากพบพระพิมพ์ดินเผาสกุลช่างหริภุญไชยจำนวนหนึ่ง แล้วยังพบจารึกหินทรายสีแดงเป็นอักษร ได้แบ่งเป็น ๓ ชนิด คือ อักษรมอญ อักษรที่มีลักษณะระหว่าง อักษรมอญกับอักษรไทย และอักษรสุโขทัย และฝักขามรุ่นแรก ภายในวัดกานโถม (ช้างค้ำ) มีต้นโพธิ์ที่เก่าแก่ มีพระพุทธรูปซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและมีหอพญามังราย หรือ ศาลพญามังราย ซึ่งเป็นที่สถิตของเทพ และเป็นที่เคารพสักการะของประชากรในละแวกนั้นมาตั้งแต่โบราณ และวัดกานโถมนี้ เป็นวัดที่มีพระสงฆ์เข้าพรรษาอยู่ภายในวัด และมีพุทธศาสนิกชนทำบุญ และร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวันสำคัญ ๆ ทางศาสนาอยู่เป็นประจำ

 

click
click
เวียงกุมกาม เป็นเมืองที่พญามังราย กษัตริย์โยนกนคร ได้สถาปนาให้เป็น เมืองหลวงแห่งแรกของล้านนา แต่ เวียงกุมกาม ก็เป็นเมืองไหลวงได้ไม่นาน เพราะประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี พญามังรายจึงโปรดให้สร้าง นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ซึ่งมีชัยภูมิดีกว่าเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ แต่ เวียงกุมกาม ก็ไม่สิ้นความสำคัญ ด้วยเป็นเมืองบริวารที่มีความใกล้ชิดกับ เวียงเชียงใหม่ จนสิ้นราชวงศ์มังราย

เวียงกุมกาม ล่มสลายลง เพราะถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่ เมื่อครั้งตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า (พ.ศ. ๒๑๐๑-๒๓๑๗) และทำให้เวียงกุมกามถูกฝังจมอยู่ใต้ตะกอนดิน จนยากจะฟื้นฟู ประกอบกับอุทกภัยครั้งนั้น แม่น้ำปิงได้เปลี่ยนร่องน้ำไม่ไหลผ่านเวียงกุมกามดังเคย เวียงกุมกาม จึงถูกทิ้งร้างอยู่ใต้ตะกอนดินมานับร้อยๆ ปี และชื่อของ เวียงกุมกาม ก็ได้เลือนหายไปจากประวัติศาสตร์ จนเชื่อกันว่า เวียงกุมกาม เป็นเพียงเมืองในตำนาน

จนกระทั่ง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ เมื่อหน่วยศิลปากรที่ ๔ ได้ขุดแต่ง วิหารกานโถม ณ วัดช้างค้ำ ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งในเวียงกุมกาม ทำให้เรื่องราวของ เมืองในตำนานแห่งนี้ปรากฏ เป็นเรื่องจริงขึ้น และจากการศึกษาค้นคว้าของ นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ ทำให้เชื่อได้แน่นอนว่า โบราณสถาน ในเขตท้องที่ หมู่ที่ ๑๑ ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี ซึ่งห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เพียง ๕ กิโลเมตรนั้น คือ เวียงกุมกาม หรือ เวียงเก่า ก่อนที่จะมี เวียงเชียงใหม่ และการล่มสลายไปเพราะอุทกภัยครั้งใหญ่ จนกลายเป็นเมืองใต้พิภพ ก่อนที่อาณาจักรล้านนาจะล่มสลาย ทำให้โบราณสถานในเวียงกุมกามมีความสมบูรณ์ และเป็นแหล่งความรู้ในการศึกษาแบบแผน ของสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม ตลอดจนวัฒนธรรมล้านนาบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นรากฐานในการศึกษาที่สำคัญของ วัฒนธรรมล้านนา ในยุคต่อๆ มา

click
click


วัดอีก้าง

ตั้งอยู่ใน เวียงกุมกาม ใกล้แน่น้ำปิง เมื่อครั้งที่น้ำท่วมใหญ่ วัดนี้ถูกตะกอนดินและทรายทับถมหนาประมาณ ๒ เมตร กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งบูรณะวิหาร และเจดีย์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๘ พบว่าวิหาร และเจดีย์อยู่บนฐานเดียวกัน มีลานประทักษิณโดยรอบเจดีย์ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนา อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๑ วัดร้างแห่งนี้ชื่อเดิมไม่ปรากฏหลักฐาน แต่ปัจจุบันเรียกกันทั่วไปว่า วัดอีก้าง

click

วัดหนานช้าง



วัดนี้เดิมถูกกลบฝังอยู่ใต้ดิน กรมศิลปากรขุดแต่ง และบุรณะ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕ - ๒๕๔๖ พบกลุ่มโบราณสถานหันหน้าไป ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สู่แม่น้ำปิง (เดิม) ได้แก่ วิหาร เจดีย์ แท่นบูชา ฐานอาคาร ๒ หลัง ซุ้มประตู และกำแพงแก้ว โบราณมีรูปแบบสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแบบล้านนา ด้านหน้าเป็นซุ้มประตูซึ่งเชื่อมต่อกับกำแพงแก้ว ซุ้มประตูนี้ตรงกับทางขึ้นด้านหน้าวิหาร ซึ่งยกพื้นสูง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าย่อเก็จ มีบันไดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนท้ายของวิหารมีฐานชุกชีประดับลายปูนปั้น ด้านหลังวิหารเป็นเจดีย์ มีแท่นบูชา ๔ ทิศ และที่มุมทั้งสี่มีเจดีย์แบบลักกาทรงกลมขนาดเล็กมุมละ ๑ องค์ นอกจากนี้ยังพบฐานอาคารอีก ๒ หลัง ที่ด้านทิศตะวันตก และด้สนทิศใต้ของเจดีย์ โดยเฉพาะโบราณสถานด้านทิศตะวันตก มีราวบันไดปูนปั้นเป็นรูปมกรคายนาค สันนิษฐานจากลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมได้ว่า วันนี้น่าจะสร้างขึ้นระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๒๑ - ๒๒
click
click


วัดปู่เปี้ย


ตั้งอยู่บริเวณที่เข้าในว่าเป็นแนวคูน้ำคันดิน ด้านทิศตะวันตกของเวียงกุมกาม อยู่ลึกลงไปจากผิวดินปัจจุบันประมาณ ๒ เมตร ประกอบด้วย วิหาร เจดีย์ อุโบสถ และส่วนประกอบปลีกย่อย อื่น ๆ เช่น แท่นบูชา และศาลผีเสื้อ ตั้งอยู่ด้านหน้า พระอุโบสถทั้งวิหารและอุโบสถ อยู่ข้างเคียงกันต่างหันทิศไปทาง ทิศตะวันออก โดยเฉพาะวิหารมีร่องรอยของการก่อสร้าง ซ่อมกันมาหลายสมัย ส่วนองค์เจดีย์นั้น มีลักษณะทางศิลปกรรม ที่มีทั้งแบบสุโขทัย และแบบล้านนา รวมกัน กล่าวคือ มีเรือนธาตุสูง รับองค์ระฆังขนาดเล็ก องค์ระฆังและส่วนยอดแบบสุโขทัย อายุสมัยของการสร้างองค์เจดีย์ปู่เปี้ย น่าจะอยู่ในรัชสมัยของพญาติโลกราชลงมา ในราว พ.ศ. ๑๙๙๘ - ๒๗๖๘ ซึ่งในปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว


click
click


วัดพระธาตุขาว


ตั้งอยู่บริเวณที่เข้าใจว่า นอกแนวคูเมืองเวียงกุมกาม เยื้องออกไปทางทิศตะวันตก อยู่ลึกจากผิวดินปัจจุบัน ประมาณ ๑ เมตร ประกอบไปด้วยวิหาร เจดีย ์และพระอุโบสถตัววิหาร หันทิศค่อนไปทางทิศเหนือ มีอยู่ด้านหลัง ลักษณะทาง สถาปัตยกรรมของเจดีย์เป็น เจดีย์กลมตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม แบบศิลปกรรมล้านนา อายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ตรงที่ประดิษฐานพระพุทธรูปในพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปปูนปั้นชำรุดขนาดใหญ่ ฉาบด้วยปูนขาวตกอยู่ เข้าใจว่าชื่อของวัด คงเรียกตามลักษณะของพระพุทธรูปนี้ ซึ่งปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว



หน้าหลัก : พาโนรามา : บ้านน่าชม : มุมอสังหาฯ : ดาวน์โหลด : ติดต่อเรา
สงวนลิขสิทธิ์ © พ.ศ. 2547 โดย www.rosenini.com